9.
8.
7.
6.
5.
4.
3.
2.
1.
10. Ri and Ilkai
ไรและอิไคเป็นชื่อเรียกของสัตว์ลึกลับของชนเผ่าในประเทศปาปัวนิวกินีที่กล่าวถึงว่าเป็นสิ่งมีชีวิตคล้ายนางเงือก(นางเงือกชัดๆ)คือมีลำตัวเหมือนมนุษย์ ร่างกายเรียวยาว และมีหางเหมือนปลา เหมือนเงือกที่ปรากฏในนิยายและการ์ตูน แม้ว่าการดำรงอยู่ของสิ่งมีชีวิตนี้จะขัดต่อมุมมองของการวิวัฒนาการ แต่บรรดาชาวพื้นเมืองในนิวกีนียืนยันว่าพบเห็นมันหลายครั้ง
และในปี 1983 สองนักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกันประกอบด้วยนักธรรมชาติวิทยาริชาร์ด กรีนเวลล์ และรอย แวกเนอร์ได้ออกเดินทางเพื่อค้นหาไรอย่างจริงจัง เพื่อหวังจะแก้ปริศนาความลึกลับอันนั้น แน่นอนว่าชายทั้งสองเชื่อว่ามันน่าจะเป็นพะยูนหรือแมวน้ำ หรือปลาโลมามากกว่านั้น อย่างไรก็ตามหลังที่พวกเขาเดินทางไปหมู่บ้านแห่งหนึ่งในปาปัวนิวกีนี เขาก็พบสัตว์ประหลาดที่ว่า มันมีลำตัวสีดำ รูปร่างบอบบาง ไม่มีครีบเหมือนปลาทั่วไป เชื่อว่ามันน่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่ยังไม่มีการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ และมีความแตกต่างจากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเลอื่นๆ แต่น่าเสียดายที่สถานที่พบมันทุรกันดานและขาดเงินทุนทำให้การเดินทางของพวกเขาต้องยุติลง(น่าเสียดาย)จึงทำไห้ปริศนาเกี่ยวกับไรยังคงดำมืดจนถึงทุกวันนี้
9.Almas
อัลมาส (เป็นภาษามองโกเลียแปลว่าคนป่าแต่เหมียวว่าน่าจะเป็นยักษ์มากกว่า)เป็นสัตว์ที่มนุษย์เข้าใจยากและดุร้ายอาซัยอยู่ในภูเขาคาซัคสถานและมองโกเลีย คำอธิบายเกี่ยวกับพวกมันคือมันค่อนข้างคล้ายกับมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์แต่ตัวเตี้ย(เตี้ยตรงไหนดูในภาพสิ)แต่ว่ามีกล้ามเนื้อร่างกายที่แข็งแรง มีขนดก แต่ไม่สามารถพูดภาษามนุษย์ได้ โดยรายงานการพบเห็นตัวอัลมาสนั้นมีมานานหลายร้อยปีและชาวบ้านที่พบเห็นพวกมันเป็นเรื่องปกติของพวกเขาไปแล้ว
ในปี 1925 ทหารราบของกองทัพแดงนำโดยนายพลมิคาเอล (Mikhail Stephanovitch Topilski) มาเข้าไปในถ้ำแห่งหนึ่ง ซึ่งที่นั้นพวกเขาได้พบสัตว์ชนิดอยู่ข้างใน ตอนแรกพวกเขานึกว่าศัตรูจึงยิงไปหลายนัดในความมืด(ไม่ดูเลย)และเมื่อสิ่งนั้นวิ่งเออกมาปรากฏว่าเป็นมนุษย์สัตว์ส่งเสียงกรีดร้อง หากแต่เมื่อมันวิ่งไประยะหนึ่งมันก็ขาดใจตายจากบาดแผลกระสุน และเมื่อตรวจสอบพบว่ามันมีร่างกายที่แข็งแรงและใบหน้าเหมือนลิงเอป นอกจากนี้ยังเรื่องราวของซาน่า ที่เชื่อว่าเป็นอัลมาสหญิงที่ถูกจับโดยคนในหมู่บ้านที่ห่างไกลในภูเขาซาดาน จอร์เจีย ซาน่านั้นมีลูกกับคนในหมู่บ้านและมีลูกชายสามคน แต่เธอปฏิเสธที่จะเลี้ยงดู ที่น่าแปลกคือลูกชายทั้งสามเป็นคนปกติ ซาน่าเสียชีวิตในปี 1880 ต่อมาซากศพของลูกชายคนสุดท้องถูกขุดขึ้นมาวิเคราะห์โดยนักวิทยาสตาร์ของสหภาพโซเวียตซึ่งต่อมาก็ได้ยืนยันความจริงที่ว่ากระโหลกศีรษะของเขามีลักษณะคล้ายมนุษย์ยุคก่อน
8. Agogve
อโกกเวแห่งเคนย่าและยูกันดานั้นมีลักษณะคล้ายคลึงกับอัลมาส แต่มีขนาดเลกกว่า และเดินตรงเหมือนลิงโบโนเบ (เป็นลิงไร้หางชนิดเดียวที่มีพฤติกรรมเหมือนมนุษย์) อีกทั้งยังมีมือเรียวยาว นักสำรวจชาวอังกฤษและนักล่าเจ เคิร์ตนีย์พยายามที่จะตามล่าสัตว์ชนิดนี้(ตามทำไม)หากแต่ส่วนใหญ่ชาวพื้นเมืองปฏิเสธที่จะช่วยเหลือเขา เช่นเดียวกันที่เกิดขึ้นในปี 1983 เมื่อทีมอังกฤษของสัตววิทยาถูกขัดขวางโดยคนท้องถิ่นเพราะถือว่าสิ่งมีชีวิตนี้เป็น “ปู่ของมนุษย์” (the grandfathers of men)แต่สำหรับในภาพแล้วน่าจะเป็นย่ามากกว่า และหลายคนเชื่อว่ามันคือออสตราโลพิเธคคัส (Australopithecus) มนุษย์วานรที่ยังคงหลงเหลืออยู่ ซึ่งพวกมันเคยอาศัยอยู่ในแอฟริกาประมาณสี่ล้านปีที่ผ่านมา
7. Yeren
พูดถึงมนุษย์วานรขนาดใหญ่ คุณก็ต้องนึกถึงเยติและบิ๊กฟุต ประเทศจีนก็มีสิ่งมีชีวิตหนึ่งที่เข้าใจยากเหมือนกัน มันเหมือนลิงเอปขนาดใหญ่ อาศัยอยู่ในป่าลึกและภูเขาที่หางไกล พวกเขาเรียกมันว่าเยเรน หรือเย่อเหริน(ชื่อแปลก)
แต่มันแตกต่างจากบิ๊กฟุตของทวีปอเมริกาเหนือ เยเรนมีขนสีส้มและสีแดง ถักเปียยาวและตามรายงานของคนท้องถิ่นมันนิสัยไม่ขี้อายเหมือนบิ๊กฟุตอเมริกาเหนือ ในปี 1942 มีรายงานแปลกๆ ในช่วงสงครามนองเลือดที่ขับเคี่ยวระหว่างจีนและญี่ปุ่น ตามพยานหลิว จีควาน (Liu Jikuan) ซึ่งตอนนั้นเป็นเพียงเด็กชายที่เห็นกองทัพทหารผ่านหมู่บ้านของเขาซึ่งได้จับเยเรนใส่กุญแจมือและลากมันไปข้างหน้า ซึ่งสิ่งมีชีวิตนี้ยังคงเป็นปริศนาว่ามันคือตัวอะไร แต่ก็ยังมีผู้พบเห็นมันในสถานที่ห่างไกลของจีนอยู้จนถึงปัตจจุบัน
6. Megalania Prisca
เมกะลาเนีย พริสคา เป็นที่รู้จักกันดีในชื่อ Varanus Priscus เป็นตะกวดดึกดำบรรพ์ สัตว์เลื้อยคลานขนาดยักษ์คล้ายจระเข้(เห็นแล้วนึกถึงกิ้งก่า)นักล่า ใหญ่กว่ามังกรโคโมโด ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ยาว 5.5 เมตร และหนักถึง 600 กิโลกรัมขนาดพอๆ กับจรเข้น้ำเค็ม แม้ว่ามันจะคาดว่าสูญพันธ์ไปแล้วประมาณ 40,000 ปีที่ผ่านมา แต่ก็มีรายงานพบเห็นมันทางตอนใต้ของออสเตรเลีย โดยเฉพาะ roamed ชนบทของออสเตรเลียมีรายงานว่ามันสร้างความรบกวนกับสัตว์พื้นบ้าน
ในปี 1939 ขณะที่รถไฟกำลังผ่านนิวเซาธ์เวลล์จู่ๆ ก็ได้หยุดระหว่างทางหลังจากสังเกตสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ขวาสงทางรถไฟ หลายนาทีต่อมารถไฟก็เดินต่อเพราะสิ่งมีชีวิตเริ่มขยับออกไป และผู้โดยสารและพนักงานรถไฟก็ได้เห็นสิ่งมีชีวิตนั้นมันคล้ายจิ้งจกขนาดใหญ่คาดว่ายาวประมาณ 8 เมตร และเมื่อเร็วๆ นี้ในปี 1979 แฟรงค์ กอร์ดอนนักศึกษางูพิษออสเตีรเลียได้เห็นเจ้ากระดูกยักษ์ไล่รถจิ๊ปเขาด้วยความเร็วเหลือเชื่อในขณะที่เขากำลังเดินทางไปในภูเขาทางเหนือของนิวเซาธ์เวลล์
5. Kongamato
คองกามาโต แปลว่า ตัวทำลายเรือ เป็นสัตว์ประหลาดลึกลับที่อาศัยอยู่หนองน้ำลึกและป่าในเส้นศูนย์สูตรของทวีปแอฟริกา คือแองโกลา แซมเบีย และคองโก ซึ่งกล่าวกันว่าเป็นพื้นที่พบจากสัตว์ตัวนี้จำนวนมาก กล่าวกันว่ามีรูปร่างคล้ายไดโนเสาร์ชนิดที่บินได้ จำพวก เทอโรแดกทิลหรือนกยักษ์ยาวประมาณ 7 ฟุต (2เมตร) ห่วงเขตแดน และยังมีฟันแหลมคมซึ่งเป็นไปได้ว่าน่าจะเป็นสายพันธุ์นกที่ยังไม่เป็นที่รู้จัก
ในปี 1932 นักสำรวจที่มีชื่อเสียง อีวาน แซนเดอร์สัน มีธุระที่ต้องเดินทางไปยังที่ห่างไกลในแคเมอรูน มีอยู่วันหนึ่งเขาและทีมงานของเขาได้ยินสัตว์แปลกประหลาดตัวหนึ่งเขา พวกเขาได้บรรยายว่ามันมีส่วนผสมของนก ค้างคาว และสัตว์เลี้อยคลาน หากไม่นานมันก็วิ่งหนีด้วยความตกใจกลัว เมื่อสอบถามชาวพื้นเมืองพบว่ามันคือคองกามาโตที่น่าหวาดกลัว เพราะมันเหมือนสารแห่งความตาย ที่อันตรายกว่าสิงโต เสื้อดาว หรืองูแมมบ้าดำ ด้วยซ้ำ ปัจจุบันการหาข้อมูลของสิ่งมีชีวิตลึกลับในเส้นศูนย์สูตรของแอฟริกายังเป็นเรื่องยากและขาดตกการสำรวจ
4. Orang Pendek
อุรัง เพนเดค (อินโดนีเซียเรียกว่า คนเตี้ย) เป็นสิ่งมีชีวิตที่ชาวบ้านในสุมาตรา ในอินโดนีเซียเรียกชื่อมัน (หรือเรียกว่าลิง เพนเดค) รูปร่างเป็นลิงขนาดใหญ่เหมือนบิ๊กฟุต(โตเหมือนบิ๊กฟุตแต่กลับชื่อคนเตี้ยเนี่ยนะ)ขนดกสีน้ำตาลออกแดงยาวรุงรัง ขาสั้น แขนยาว สามารถเดินตัวตรงได้เหมือนมนุษย์ อาศัยอยู่ในป่าฝนลึกของเกาะ และเชื่อว่านิสัยขี้อายไม่อยากให้มนุษย์พบเห็น กล่าวกันว่ารายงานการพบเห็นของมันมีมานานหลายร้อยปี โดยชนเผ่าชาวบ้านในท้องถิ่นตั้งแต่สมัยอาณานิคมของชาวดัตช์ที่มาตั้งถิ่นฐานในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 และนักวิทยาศาสตร์และนักเดินทางเองก็ได้เห็นตัวของมัน เชื่อว่ามันสูงกว่า 80-150 เซนติเมตร และทิ้งรอยเท้าไว้บนพื้นอีกด้วย
3. Yowie
โยวี่ เป็นชื่อเรียกของสัตว์ประหลาดชนิดหนึ่ง ที่พบในออสเตรเลีย กล่าวกันว่า มีรูปร่างคล้ายมนุษย์ผสมกับลิงขนาดใหญ่ มีขนปกคลุมร่างกายไปทั่ว คล้ายกับบิ๊กฟุตหรือซาสควอทช์ ในทวีปอเมริกาเหนือ หรือเยติ ในเทือกเขาหิมาลัย ซึ่งเชื่อว่าโยวี่อาจมีอยู่จริงเพราะสภาพแวดล้อมของออสเตรเลียถือว่ายังมีหลายพื้นที่ที่ยังขาดตกสำรวจ และยังมีสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหลายชนิดที่ยังไม่ค้นพบ
อย่างไรก็ตามการพบเห็นโยวี่ยังคงเกิดขึ้น หนึ่งในรายงานที่โดดเด่นที่สุดคืออดีตวุฒิสมาชิกบิล โอ ชีส ในปี 1977 ขณะที่เขายังอยู่ในโรงเรียนใน Springbook เขาและเพื่อนของเขาถูกคุกคามโดยสัตว์ชนิดหนึ่งสูง 10 ฟุต (3 เมตร) ใบหน้าเหมือนกอริลลาที่ฉีกต้นไม้อย่างง่ายดายเหลือเชื่อ และช่วงสองวันเขายังพบกับมันหลายคน จนถึงทุกวันนี้เขายังไม่ลืมเหตุการณ์ในวันที่เขาเห็นมัน ปัจจุบันเชื่อว่าโยวี่ อาศัยหุบเขาที่ห่างไกลในรัฐนิวเซาท์เวลส์ โกลด์โคสต์ของรัฐควีนส์แลนด์และในป่าของ โมฮู เรนจ์ ในโอกแลนด์ พื้นที่ภาคเหนือและชายฝั่งตะวันตกของออสเตรเลีย
2. Nunda
อืมอึงวา หรือ นัดดา กล่าวกันว่ามันคือแมวดุร้ายที่แอบซ่อนอยู่ในป่าแห่งหนึ่งในประเทศแทมซาเนีย ขนาดของมันใหญ่และมีความแข็งแกร่งยิ่งกว่าสิงโด ซึ่งมีการกับเส้นขนของสัตว์ชนิดนี้และถูกวิเคราะห์เชื่อว่ามันเป็นสายพันธุ์ใหม่ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่กินเนื้อ
ในปี 1922 ร้อยเอก วิลเลี่ยม ฮัคเคนส์ พนักงานปกครองแห่งลินดิ ทังกันยิกา ได้นำเรื่องของมันเผยแพร่จนเป็นที่สนใจของสื่อมวลชนในยุโรปเป็นครั้งแรกซึ่งมันสน้างความเดือดร้อนแก่ชาวบ้านเป็นเวลานาน ในปช่วงปี 1920 นายพราน แพทริค โบเวน พยายามตามรอย อืมอึงวาพยายามที่จะตามล่ามันแต่ก็ล้มเหลว แต่อย่างไรก็ตามจากสัตว์ตัวนี้น่าจะเป็นสัตว์สายพันธุ์ใหม่ที่ยังไม่เป็นที่รู้จักทางวิทยาศาสตร์
1.Acurinis
Acurinis เป็นชื่อของชนเผ่าลึกลับ คล้ายๆ คนยุโรป (Europoid) ผมสีบลอนด์ กล่าวกันว่าพวกเขาอาศัยอยู่ในกลางป่าดงดิบอเมซอน(แปลกๆยังไงไม่รู้)ซึ่งมีรายงานการพบเผ่านี้ในปี 1977 เมื่อมีผู้หลงทางเข้าในป่าและพบว่าตนเองถูกล้อนรอบด้วยฝูงคนตัวสูง ผมสีบอลนด์ เปลือยกาย พูดด้วยภาษาแปลกประหลาดที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน
ปัจจุบันข้อมูลเกี่ยวกับชนเผ่าลึกลับนี้มีมากมายนัก อีกทั้งรัฐบาลบราซิลพยายามปฏิเสธถึงตัวตนของเผ่าและเหมือนปกปิดอะไรบางอย่าง เพราะไม่ต้องการที่ใครมาแทรกแซงการดำรงชีวิตของพวกเขา แต่ทุกวันนี้ยังมีบางคนต้องการที่จะตามหาตัวตนของชนเผ่านี้อยู่ดี
อ้างอิง
http://listverse.com/2012/12/24/10-cryptids-that-could-be-real/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น